เมียกลับจากทำงานนอนอยู่ข้างผัว ได้ยินเสียงลูกร้องตะโกนลั่น "พ่อตายแล้ว" สะดุ้งตื่นมาอีกทีเจอในสภาพแบบนี้แทบช็อก!!

--Advertisement--
เมียกลับจากทำงานนอนอยู่ข้างผัว ได้ยินเสียงลูกร้องตะโกนลั่น "พ่อตายแล้ว" สะดุ้งตื่นมาอีกทีเจอในสภาพแบบนี้แทบช็อก!!

เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 22 พ.ย. ร.ต.อ.นิรันดร์ สวัสดิ์ศรี รองสารวัตรสอบสวน สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุปราการ ว่ามีคนผูกคอเสียชีวิตที่ บ้านเช่า 2 ชั้น ใน ซ.วัดบางพึ่ง จึงนำกำลังสายตรวจตรวจสอบที่เกิดเหตุ พื้นที่ หมู่ที่ 9 ซ.วัดบางพึ่ง ต.บางพึ่ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ


ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านยืนมุงดูอยู่ เดินเข้าไปตรวจสอบพบผู้เสียชีวิตนอนอยู่บนที่นอนชั้นล่าง สภาพผู้ตายใส่กางเกงขาสั้นสีชมพู และมีผ้าขนหนูปิดไว้ ทราบชื่อต่อมา คือ นายนำ โพธิ์สีมา อายุ 48 ปี อยู่ แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. เป็นช่างออกแบบสกรีนเสื้อ สาเหตุการเสียชีวิตใช้สายไฟผูกคอตัวเองกับขื่อหลังคาห้องครัวหลังบ้าน

ร.ต.อ.นิรันดร์ ได้สอบถาม ภรรยาผู้ตาย อายุ 41 ปี อยู่ หมู่ที่ 8 ต.ตูมใต้ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี กอดศพสามี ร่ำไห้ เล่าให้ฟังว่า ตนอยู่กินกับผู้ตายมาหลายสิบปีแล้ว ก่อนหน้านี้ผู้ตายมีโรคประจำตัวที่ต้องรักษาอยู่ คือ โรคเกาต์ บางที่ก็บ่นบ้าง แต่พอมาพักหลังก่อนเสียชีวิตมีปัญหาเรื่องลูกชายเข้ามาอีก ทำให้ผู้ตายเกิดอาการเครียดมากขึ้น จนก่อนหน้านี้ผู้ตายเคยพยายามฆ่าตัวตายแบบนี้มาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ช่วยไว้ได้ทัน จากนั้นตนก็คอยเฝ้าดูและคอยพูดให้กำลังใจผู้ตายมาตลอด


จนมาวันนี้ตนกลับมาจากทำงานเวลาประมาณ 23.00 น. ก็เห็นผู้ตายนอนตามปกติยังตื่นมาคุยกัน ก็ไม่มีอะไร ส่วนลูกชายอีกคนก็นอนอยู่ชั้นบน แต่ตนกับผู้ตายนอนที่ชั้นล่าง สักพักตนก็หลับไป เพราะเพลียจากการทำงาน ตอนเวลาประมาณ 04.00 น. ลูกชายตื่นลงมาเข้าห้องน้ำ ตกใจร้องตะโกนเรียกตนว่าพ่อผูกคอตาย จากนั้นตนจึงรีบไปดู เห็นผู้ตายใช้สายไฟสีดำผูกคอตัวเองกับขื่อหลังคาห้องครัว จึงให้ลูกชายไปตามเพื่อนบ้านมาช่วยเอาตัวลงมานอนตรงที่นอน แต่ไม่ทันเสียชีวิตแล้ว

ด้าน ร.ต.อ.นิรันดร์ สวัสดิ์ศรี พนักงานสอบสวน ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้วไม่มีร่องรอยการต่อสู้และสภาพศพก็ไม่มีร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด คาดว่าหน้าจะเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2-3 ช.ม ส่วนสาเหตุการตายอาจจะเครียดปัญหาครอบครัว รวมถึงโรคประจำตัวอีกด้วย จึงทำให้ก่อเหตุขึ้น ทางตำรวจให้มูลนิธิร่วมกตัญญนำศพส่งสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริง จากนั้นจึงให้ญาติรับศพกลับไปดำเนินพิธีกรรมตามศาสนาต่อไป

ที่มา – Khaosod
--Advertisement--
Previous
Next Post »

บทความที่ได้รับความนิยม